เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๐๐น. ที่ศาลาเอนกประสงค์ ชุมชนบ้านแหลมหลา ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต นายทวิชาติ อินทรฤทธิ์ วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต และนายสุทธิพงศ์ สายสาคเรศ แรงงานจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกันเปิดการอบรมโครงการพัฒนาทักษะฝีมือชาวไทยใหม่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพ หลักสูตรเพ้นท์ผ้าปาเต๊ะ และปักเหลื่อม ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖
นายทวิชาติ อินทรฤทธิ์ วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๖ เห็นชอบแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาการฟื้นฟูวิถีชาวเลจังหวัดภูเก็ต ตามประเด็นต่างๆ ได้แก่ การสร้างความมั่นคงด้านที่ดินที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน การสร้างความมั่นคงในอาชีพ เป็นต้น ชาวเล หรือชาวไทยใหม่ หรือชาวมอแกน หรือชาวอูรักลาโว้ย ส่วนใหญ่มีอาชีพทำประมงในท้องทะเลอันดามัน โดยผู้ชายเป็นหัวหน้าครอบครัวออกทะเลหาปลา ฝ่ายผู้หญิงก็อยู่บ้านเลี้ยงลูกและหากิจกรรมอื่นๆ ทำ เช่น สานเสื่อใบเตย ตับใบมะพร้าว ตับใบจากสำหรับมุงหลังคา เป็นต้น ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันชาวเลจะมีรายได้ไม่เพียงพอกับการเลี้ยงชีพ ประกอบกับแหล่งที่พักอาศัยของชาวเลเป็นแหล่งท่องเที่ยว หากได้รับการส่งเสริมให้กลุ่มสตรีชาวเลหรือผู้สนใจชาวเล มีอาชีพด้านการขายของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว จะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเลภูเก็ต ได้ทางหนึ่ง จึงได้ของบประมาณจากสำนักงานแรงงานจังหวัดภูเก็ตมาดำเนินการโดยในระยะแรกจะฝึกอบรม ๒ รุ่น รุ่นแรก วันที่ ๔ – ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ที่ชุมชนบ้านแหลมหลา ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต รุ่นที่สอง วันที่ ๑๑ –๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ที่ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต รุ่นละ ๑๖ คน
นายสุทธิพงศ์ สายสาคเรศ แรงงานจังหวัดภูเก็ต กล่าวเสริมว่าชาวเล หรือชาวไทยใหม่ ที่เข้ารับการอบรมทั้ง ๒ รุ่น มีความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพมีรายได้ไม่เพียงพอในการเลี้ยงชีพ โดยเฉพาะเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย โดยวัฒนธรรมจังหวัด เป็นผู้ดูแลเรื่องวิธีชีวิตชาวไทยใหม่ ส่วนแรงงานจังหวัด รับผิดชอบในการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ แรงงานจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่าโครงการพัฒนาทักษะฝีมือชาวไทยใหม่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพ หลักสูตรเพ้นท์ผ้าปาเต๊ะ และปักเหลื่อม เป็นโครงการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบปัญหาด้านอาชีพ ของกระทรวงแรงงาน หนึ่งในจำนวน ๑๖ โครงการที่คณะกรรมการศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติกระทรวงแรงงาน จังหวัดภูเก็ต ได้พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการ ลักษณะโครงการเป็นการฝึกอาชีพแบบให้เปล่า โดยทางกระทรวงแรงงานจะเป็นผู้รับผิดชอบในค่าวิทยากร วัสดุการฝึก รวมทั้งช่วยเหลือค่าอาหารแก่ผู้เข้ารับการอบรม วันละ ๑๒๐ บาทด้วย